การดูแลหินอ่อนและแกรนิต

 ถึงแม้ว่าหินอ่อนแลละหินแกรนิตเป็นหินธรรมชาติที่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านสีสันและลวดลาย แต่เมื่อนำมาติดตั้งใช้งาน ผู้ใช้ควรจะมีความรู้ในด้านการดูแลรักษาทั้งก่อนและหลังการติดตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืดอายุการใชงานหินอ่อนและแกรนิตให้มีความสวยงามคงทน โดยก่อนการติดตั้ง ผู้ใช้ควรจะมีการป้องกันการซึมของน้ำ ตั้งแต่พื้นปูนไปจนถึงเนื้อหินเอง เพื่อช่วยลดการซึมของน้ำ โดยใช้ผลิตภัณฑ์กันซึมที่ใช้กับหินอ่อนและแกรนิตโดยเฉพาะ ทั้งนี้ควรทาน้ำยากันซึมทั้ง 6 ด้านของเนื้อหินแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 1 วัน เต็ม เพื่อให้น้ำยาไปอุดรูพรุนของเนื้อหิน ทั้งนี้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันการซึมที่มีคุณสมบัติไม่ปิดหินสนิทแบบ 100% เพราะถ้าหากปิดสนิทจนเกินไป จะเหมือนกับขวดแชมเปญที่เมื่อมีอากาศแรงดันจากภายในจะทำให้จุกก๊อกพุ่งออกจากขวด ควรให้หินมีการระเหยจากภายใต้หินได้ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาขึ้นกับผิวหินภายหลังได้

หลังการติดตั้งหินเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้ควรเอาใจใส่ดูแลรักษาเป็นประจำโดยใช้ผลิดภัณฑ์ทำความสะอาดและเคลือบเงาที่ใช้เฉพาะหินอ่อนและแกรนิต ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เนื้อหินมีความสวยงามอยู่ตลอดเวลา

ข้อควรระวัง สำหรับการดูแลรักษาพื้นผิวของหินคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและขัดเงา ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ควรใช้อย่างมากกับการทำความสะอาดหิน ได้แก่ ผงซักฟอกหรือน้ำยาขัดห้องน้ำ ตลอดจนน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤิทธิ์เป็นกรด รวมทั้งน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันมะกอก เพราะจะทำให้ผินหินด้านหมดสภาพความเงา ส่วนปัญหาของคราบสกปรกที่เกิดจากสนิมเหล็ก, ยางไม้, น้ำปูน ฯลฯ ที่เกิดจากการใช้งานก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะเพื่อใช้ในการขจัดคราบสกปรกดังกล่าว หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแล้ว ควรใช้น้ำยาขัดเงาเป็นแวกซ์ชนิดน้ำ (Liquid Wax) เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้พื้นผิวหินมีความเงายาวนานขึ้น ถ้าหากเป็นบ้านพักอาศัยในพื้นที่ที่ไม่ใส่รองเท้าควรใช้ Liquid Wax อย่างน้อย 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง และหากผู้ใช้พบว่าหินอ่อนหรือหินแกรนิตที่ติดตั้งเริ่มหมดสภาพความงามแล้ว มีวิธีปฏิบัติที่จะชวยฟื้นความงามของพื้นหินดังนี้ 

สำหรับพื้นหินอ่อนมีให้เลือก 2 วิธีให้เลือกใช้คือ 

1. ใช้ผลิตภัณฑ์เคมีช่วยเพิ่มความเงาหิน โดยวิธี Crystallization ซึ่งเป็นกระบวนการปฏิกิริยาทางเคมี ที่ช่วยทำให้พื้นผิวของหินอ่อนเงาและแข็งแรงขึ้น ใช้ควบคู่กับ Steel Wool และเครื่องขัดที่มีความเร็วรอบไม่ต่ำกว่า 175 รอบต่อนาที ทั้งนี้จะช่วยให้พื้นผิวหินอ่อนมีความเงาขึ้นมาได้ระดับหนึ่งเท่านั้น 

2. การขัดลอกหน้าหิน หรือ Re-Surface เป็นการใช้เครื่องขัดพื้นคู่กับใบขัดที่มีส่วนผสมของเพชร ขัดปรับระดับหินที่ไม่ได้ระดับให้เสมอกันก่อน แล้วขัดปรับผิวหยาบจนถึงผิวละเอียดของเนื้อหินแล้วจึงลงขั้นตอนสุดท้าย คือ การขัดเงา ซึ่งภายหลังจบกระบวนการดังกล่าวผู้ใช้ก็จะได้ผิวหินที่สวยงามเสมือนติดตั้งใหม่ผิดอยู่ตรงที่ระดับของหินทุก ๆ แผ่นจะเรียบเสมอกันหมด ไม่มีรอยสะดุด

ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญทีสุดของการดูแลรักษาสภาพพื้นผิวของหินคือ ผู้ใช้ควรหมั่นดูแลทำความสะอาด โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ค้นคว้ามาสำหรับหินโดยเฉพาะ ไม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารพัดประโยชน์ตามคำโฆษณาชวนเชื่อ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาต่อความคงทนของพื้นที่หินอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากพบว่า มีปัญหาเกิดขึ้นกับพื้นหินอ่อน และหินแกรนิตควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญงานโดยเลือกวิธีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

เทคนิคการดูแลหินอ่อนแบบง่ายๆ

แม้ว่าหินอ่อนจะเป็นวัสดุที่มีความสวยงามและแข็งแรงทนทานไม่น้อย หากถ้าต้องให้พื้นหินอ่อนมีความเงางาม สวยงามเป็นเวลานานควรระมัดระวังสิ่งต่างๆ เหล่านี้ 

  1. ไม่ควรปล่อยให้ของหรือภาชนะที่มีความร้อนสูงสัมผัสพื้นผิวโดยตรงเป็นเวลานาน เนื่องจากความร้อนอาจทำให้หินด้านและความเงางามจะหายไป
  2. อาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่มีความเป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว ฯลฯ อาจทำลายพื้นผิวของหินอ่อนได้ เมื่อมีการเปรอะเปื้อนให้รีบทำความสะอาดโดยเร็ว
  3. ไม่ควรลากภาชนะที่หนักและมีความแข็งบนพื้นหินอ่อน เพราะอาจทำให้พื้นหินมีรอยได้
  4. ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของกรด เช่น น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำมาเช็ดถูทำความสะอาดพื้นผิวหินอ่อนโดยเด็ดขาด เพราะน้ำยาจะไปทำลายผิวหน้าหินอ่อนทำให้หมดความเงางามไป เพียงแต่ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีจำหน่ายทั่วไปมาเช็ดถูพื้นหินอ่อนเท่านั้นก็พอ
  5. หลังทำความสะอาดแล้วควรลง Wax เคลือบผิวบางๆ เพื่อรักษาสภาพของผิวหินอ่อนให้เงางามอยู่เสมอ